Thursday 19 May 2016

12 ข้อที่คุณอาจไม่รู้เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า





1. พระพุทธเจ้าไม่ได้มีองค์เดียวแต่มีมาแล้วมากมายนับไม่ถ้วน
พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ชื่อ โคดมพระพุทธเจ้า
องค์ต่อไป ชื่อ พระศรีอริยเมตไตร
ในยุคที่คำสอนของพุทธศาสนายังดำรงอยู่จะไม่มีพระพุทธเจ้ากำเนิดในช่วงเวลาเดียวกัน

2. ในพระไตรปิฎกมีนามของพระพุทธเจ้า 29 องค์
ที่อยู่ในช่วง 4 อสงไขย 100,000 กัป ที่ผ่านมา
(1 อสงไขย = 1 แล้วตามด้วยศูนย์อีก 140 ตัว)

3. การที่จะเป็นพระพุทธเจ้าได้นั้นต้องบำเพ็ญบุญบารมีนานมากๆ 
ความตั้งใจนี้ เรียกว่า การปรารถนาพุทธภูมิ มีอยู่ 3 ช่วง ได้แก่
3.1 ช่วงคิดปรารถนาอยู่ในใจไม่ได้เอ่ยปาก
3.2 ช่วงเปล่าวาจาต่อหน้าพระพุทธรูป
3.3 ช่วงหลังจากได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้า

ช่วงที่ 1 และ 2 สามารถเปลี่ยนคำปรารถนาได้
ถ้าบุญบารมีมากพอก็จะสามารถบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้เลย
แต่หลังจากได้รับการพยากรณ์จากพระพุทธเจ้าแล้วจะล้มเลิกไม่ได้

4. พระพุทธเจ้ามี 3 ประเภท หากแบ่งตามเส้นทางการสะสมบารมี ได้แก่
4.1 ปัญญาธิกพุทธเจ้า สะสมบารมีโดยใช้ปัญญา
ใช้เวลาสะสมบารมี 20 อสงไขย 100,000 กัป
(การเจริญปัญญาได้บุญบารมีสูงเลยเต็มเร็ว)

4.2 สัทธาธิกพุทธเจ้า สะสมบารมีโดยใช้ศรัทธา ปัญญาปานกลาง
ใช้เวลาสะสมบารมี 40 อสงไขย 100,000 กัป

4.3 วิริยาธิกพุทธเจ้า สะสมบารมีโดยใช้ความเพียร
ใช้เวลาสะสมบารมี 80 อสงไขย 100,000 กัป

5. พระโพธิสัตว์ คือ ผู้ที่อยู่ในเส้นทางการสะสมบารมีเพื่อตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตหลังจากได้รับพุทธทำนาย ซึ่งจะมีบุญบารมีสูงกว่ามนุษย์ทั่วไป จิตของพระโพธิสัตว์จะยังไม่มีทางบรรลุธรรมขั้นโสดาบัน เพราะรอที่จะบรรลุในชาติสุดท้ายที่มาเกิดเป็นพระพุทธเจ้า

ในประเทศไทย มีครูบาอาจารย์ได้กล่าวถึงท่านเหล่านี้ว่าเป็นพระโพธิสัตว์ ได้แก่ หลวงปู่ทวด สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) รวมถึงในหลวงรัชกาลปัจจุบันด้วย

6. บารมีที่จะต้องบำเพ็ญ คือ บารมี 10 ตัว
ซึ่ง 10 ชาติสุดท้ายก่อนที่จะเป็นพระพุทธเจ้านั้นต้องบำเพ็ญอย่างยิ่งยวดเหนือกว่าคนธรรมดาจะทำได้ เช่น การเสียสละลูกของพระเวสสันดรเพื่อ ทานบารมี

7. พระพุทธเจ้า มี 2 ประเภท คือ
7.1 ปัจเจกพุทธเจ้า คือ ผู้ที่เกิดในยุคที่ไม่มีพุทธศาสนาแล้วตรัสรู้ธรรมได้ด้วยตนเอง แต่ท่านไม่ได้ประกาศศาสนาเพียงแต่สอนคนไม่มากเท่านั้น ยุคนี้จึงมีเพียง พระพุทธ และ พระธรรม แต่ไม่มีพระสงฆ์
7.2 สัมมาสัมพุทธเจ้า คือ ผู้ที่เกิดในยุคที่ไม่มีพุทธศาสนาแล้วตรัสรู้ธรรมได้ด้วยตนเอง และท่านได้ประกาศศาสนาออกไปสู่คนจำนวนมาก ยุคนี้จะมีพระรัตนไตยครบองค์ ได้แก่ พระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์

คำว่า ตรัสรู้ ใช้กับพระพุทธเจ้าเท่านั้น
ส่วนผู้ที่บรรลุธรรมในสมัยที่ยังมีพุทธศาสนาอยู่ แม้จะเป็นพระอรหันต์ไม่ถือว่าเป็นพระพุทธเจ้าทั้ง 2 ประเภท แต่จัดอยู่ในประเภท สาวกภูมิ

8. การบำเพ็ญบุญ บารมี ที่ดีที่สุด คือการเกิดเป็นมนุษย์
ฉะนั้น 10 ชาติสุดท้ายของพระพุทธเจ้าจะเป็นมนุษย์ส่วนใหญ่

9. ชาติสุดท้ายก่อนที่จะมาเป็นพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันไม่ใช่ชาติที่เกิดเป็นพระเวสสันดร แต่เป็นพรหมที่ชื่อ สันตุสิตเทพบุตร ในสวรรค์ชั้นดุสิต
เพื่อรอเวลาอุบัติมาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

10. ปัจจัย 5 อย่างที่เหมาะสมที่จะมีพระพุทธเจ้าได้แก่
- อายุขัยมนุษย์ต้องอยู่ในช่วง 100,000 - 100 ปี
- อยู่ในชมพูทวีป (ไม่ใช่อินเดีย แต่เป็นแผ่นดินที่มีมนุษย์อาศัยอยู่)
- อยู่ในประเทศที่เหมาะสม
- เกิดในตระกูลกษัตริย์ หรือ พราหมณ์เท่านั้น
- เกิดในมารดาที่ต้องมีศีล 5 มีการบำเพ็ญบารมีมา 100,000 กัป
พุทธมารดาของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์หลังจากประสูติพระพุทธเจ้าแล้วจะสิ้นพระชนม์ภายใน 7 วัน เพราะ ไม่สามารถให้กำเนิดมนุษย์ที่บารมีน้อยกว่าได้อีก

11. พระพุทธเจ้าทุกองค์มีเหตุการณ์ที่เหมือนกัน ดังนี้
- เดิน 7 ก้าวเมื่อประสูติ
- หากเกิดเป็นกษัตริย์จะได้รับคำทำนายว่าจะออกบวช และ พุทธบิดาจะกีดกันทุกอย่างเพื่อไม่ให้บวช
- มีการครองเรือน คือ มีพระชายาเหมือนคนทั่วไป และจะมีบุตรคนเดียวเท่านั้น
- ออกบวชด้วยเหตุเดียวกันหมด คือ เห็น คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และ นักบวช
- ก่อนตรัสรู้จะมีคนมาถวายข้าวมธุปายาส เป็นมื้อสุดท้าย และ ลอยถาดทวนน้ำ
- มีกองทัพพญามารมาขัดขวางก่อนจะตรัสรู้
- มีแก่นคำสอนเหมือนกันหมด เช่นเรื่อง อริยสัจ4 ขันธ์5 ไตรลักษณ์ กรรมฐาน วิปัสสนา (แต่ภาษาที่ใช้เปลี่ยนตามยุคสมัย)
- มีการชุมนุมของพระอรหันต์โดยมิได้นัดหมาย จำนวน 1-3 ครั้ง
- เสด็จขึ้นไปบนสวรรค์เพื่อโปรดพุทธมารดา

12. วัดแห่งแรกของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ไม่ว่าจะเป็นในอดีต ปัจจุบัน หรือ อนาคต
ตั้งอยู่ในพิกัดเดียวกันหมด รวมถึงกุฎิของท่านด้วย

สามารถแชร์บทความนี้ต่อได้เลยครับ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ "พระพุทธเจ้า ไม่ได้มีแค่หนึ่ง"



3 comments:

Your Comment